สรุปบทที่4
ฮาร์ดแวร์
แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท
อุปกรณ์นำข้อมูลเข้า (Input Device)
อุปกรณ์ประมวลผล (Process Device)
หน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage Device)
อุปกรณ์
อุปกรณ์นำข้อมูลเข้า (Input Device)
อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลหรือชุดคำสั่งเข้ามายังระบบ
ข้อมูลที่นำเข้าอาจเป็นตัวเลขตัวอักษร ภาพกราฟิก เสียงหรือวิดีโอแสดงผลลัพธ์
ประเภทการกด (Keyed Device)
คีย์บอร์ด (Keyboard)
อุปกรณ์นำข้อมูลเข้าที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน
รับข้อมูลป้อนเข้าที่เป็นตัวอักษร อักขระพิเศษ ตัวเลข รวมถึงชุดคำสั่งต่างๆ
กลุ่มของแป้นพิมพ์วางเรียงต่อกันเหมือนกับเครื่องพิมพ์ดีด
ข้อมูลที่ป้อนเข้าจะถูกเก็บไปยังหน่วยความจำของระบบและแปลงให้เป็นรหัสที่คอมพิวเตอร์
คีย์บอร์ด (Keyboard)
คีย์บอร์ดติดตั้งภายใน (Built-in keyboard)
ขนาดของแป้นพิมพ์เล็กลงกว่าแบบมาตรฐานทั่วไป
พื้นที่ในการทำงานจึงจำกัดให้เล็กลงตามไปด้วย
มีอยู่ในคอมพิวเตอร์แบบพกพา เช่น โน้ตบุ๊คหรือเดสก์โน้ตตอร์เข้าใจtput Device)
คีย์บอร์ดเออร์โกโนมิกส์ (Ergonomickeyboard)
ออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก
ลดความเมื่อยล้าจากการพิมพ์ได้
เพิ่มอุปกรณ์สำหรับวางข้อมือและออกแบบแป้นพิมพ์ให้สัมพันธ์
คีย์บอร์ดไร้สาย (Cordless keyboard)
ส่งผ่านข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีไร้สาย
ทำงานได้ภายใต้รัศมีของสัญญาณนอกเหนือจากโต๊ะทำงานได้
ดึง ย้าย หรือเปลี่ยนตำแหน่ง ทำได้ง่ายกว่า
ใช้คีย์บอร์ดพกพา (Portable keyboard)
ใช้กับอุปกรณ์ประเภทพีดีเอ
นิยมใช้กับการพิมพ์ข้อความแทนปากกาช่วยเขียนเช่น รายงานจดหมายหรือบันทึกการประชุม
สามารถพกพาไปยังที่ต่างๆได้
สามารพับเก็บและกางออกมา
ประเภทชี้ตำแหน่งและควบคุมทิศทาง(Pointing Devices)
เมาส์ (Mouse)
อุปกรณ์ที่ช่วยสำหรับการชี้ตำแหน่งการทำงานของข้อมูล
สั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำงานบางคำสั่งที่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์
ใช้มือเป็นตัวบังคับทิศทาง
เมาส์แบบทั่วไป (Mechanical mouse)
มีการใช้ลูกบอลเป็นตัวขับเคลื่อนทิศทาง
มีลักษณะเป็นลูกกลมๆทำจากแผ่นยางกลิ้งอยู่ส่วนด้านล่าง
ส่วนบนของเมาส์จะมีปุ่มให้เลือกกดประมาณ 2-3 ปุ่ม ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิต
เมาส์แบบใหม่สามารถควบคุมการทำงานขึ้นลงของสโครลบาร์ในหน้าต่างของโปรแกรมบางประเภทได้เรียกว่า scroll mouse และใช้นิ้ว
เมาแบบแสงหรือออปติคอลเมาส์(Optical mouse)
ใช้แสงส่องกระทบพื้นผิวและแปลงทิศทางชี้ตำแหน่งแทนการใช้ล้อหมุน
ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองจับ อันเป็นสาเหตุให้การบังคับทิศทางผิดพลาด
มักนิยมเรียกว่า ออปติคอลเมาส์ ซึ่ง ปัจจุบันมีทั้งที่เป็นแบบต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้สายและไม่ใช้สายสำหรับการกดเลือกคำสั่งงานได้
แผ่นรองสัมผัสหรือทัชแพด (touch pad)
เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆติดตั้งไว้อยู่ในคอมพิวเตอร์แบบพกพา
ใช้ทำงานแทนเมาส์โดยกดสัมผัสหรือใช้นิ้วลากผ่าน
ส่วนมากจะติดตั้งไว้บริเวณด้านล่างของแป้นพิมพ์ในคอมพิวเตอร์
แท่งชี้ควบคุมหรือพอยติงสติ๊ก (pointing stick)
มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆคล้ายกับยางลบดินสอ เพื่อช่วยชี้ตำแหน่งของข้อมูล
ติดตั้งอยู่ตรงส่วนกลางของแป้นพิมพ์ในคอมพิวเตอร์แบบพกพา
ใช้นิ้วมือเป็น
จอยสติ๊ก (Joystick)
พบเห็นได้กับการใช้เล่นเกมคอมพิวเตอร์
การควบคุมทิศทางทำได้ง่ายและสะดวกกว่าเมาส์
บังคับได้หลายทิศทาง เช่น การบังคับทิศทางซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือบังคับทิศทางในระดับองศาที่แตกต่างกัน
ทำให้การเล่มเกมมีจอสัมผัสหรือทัชสกรีน (Touch screen)
สามารถใช้นิ้วมือแตะบังคับลงไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้
ทำงานแทนเมาส์และคีย์บอร์ด และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ (interactive) ได้เป็นอย่างดี
นิยมใช้กับตู้ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวตู้เกมบางประเภท
สแกนเนอร์ (Scanner)
อุปกรณ์อ่านข้อมูลประเภทภาพถ่าย
เพียงแค่วางภาพถ่ายหรือเอกสารแล้วสั่งให้เครื่องอ่านหรือสแกนก็สามารถเก็บรูปภาพหรือเอกสารสำคัญไว้ในคอมพิวเตอร์ได้
ทำงานเหมือนกับเครื่องถ่ายเอกสารสนุ
โอเอ็มอาร์ (OMR - Optical MarkReader)
ใช้ประโยชน์ในการตรวจข้อสอบหรือคะแนนของกลุ่มบุคคลจำนวนมาก
เช่น การสอบเอ็นทรานซ์ การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ
เครื่องจะอ่านเครื่องหมาย (mark) ที่ผู้เข้าสอบได้ระบายไว้ในกระดาษคำตอบเพื่อนำไปประมวล
เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Bar code reader)
มีหลายรูปแบบ เช่น หัวอ่านมีด้ามจับคล้ายปืนหรือฝังอยู่ในแท่นของเครื่องเก็บเงินสด
พบเห็นได้ตามจุดบริการเก็บเงิน (POS - Point Of Sale) ร้านอาหารร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป
สะดวกต่อการตรวจเช็คข้อมูลสินค้าคงเหลือและการชำระเงินอุปกรณ์ประมวลผล
ซีพียู (CPU - Central Processing Unit)
หน่วยประมวลผลกลาง หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่าไมโครโพรเซสเซอร์
เปรียบเหมือนกับสมองของมนุษย์ที่ใช้ในการคิดวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อหาผลลัพธ์
ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานและประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์นำข้อมูลเข้า (inputdevice) และส่งต่อไปยังอุปกรณ์ส่วนอื่นลต่อกและสสถาปัตยกรรมที่ใช้สำหรับผลิตซีพียู
RISC-Reduced Instruction Set Computer
ออกแบบมาโดยลดจำนวนคำสั่งภายในซีพียูให้มีจำนวนและขนาดที่เล็กลง
ส่งผลให้ความเร็วในการทำงานโดยรวมของซีพียูเพิ่มขึ้น
มีที่เหลือสำหรับทำวงจรอย่างอื่นในตัวซีพียู เช่น ทำที่พักข้อมูล (cache)
พยายามให้ชุดคำสั่งที่ซีพียูสามารถทำงานได้นั้นมีคำสั่งในรูปแบบต่างๆให้เลือกใช้มากมายหลายร้อยคำสั่ง
มีข้อจำกัดคือวงจรภายในต้องมีความซับซ้อนและใช้เวลาในการทำงานแต่ละคำสั่งนายกว่าแบบRISC
ซีพียูที่ออกแบบตามแนวทางนี้ เช่น เพนเทียมรุ่นแรกๆของบริษัทอินเทล รวมถึงซีพียูจากค่าย AMD และ Cyrix เป็นต้น
* ปัจจุบันมักใช้แนวทางที่เริ่มปรับเข้าหากัน คือเอาส่วนดีของแต่ละ
แนวทางมาปรับใช้ เช่น ใน ซีพียูเพนเทียม 4 มีการเอาแนวคิดของ
RISC เข้าไป
ผลหน่วยความจำหลัก (Primary Storage)
เรียกได้หลายชื่อเช่น main memory, primary memory,internal memory, internal storage
ทำงานใกล้ชิดกับซีพียูมากที่สุด
ช่วยเหลือการทำงานของซีพียูให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เช่นการพักหรือเก็บข้อมูลขณะที่มีการประมวลผล
แบ่งออกเป็น 2 ประเภ
หน่วยความจำแบบ ROM
ไม่จำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้าเลี้ยง (nonvolatile memory)
ส่วนใหญ่มักถูกติดตั้งไว้เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการทำงานของเครื่อง
มักจะมีการผลิตชุดคำสั่งไว้ใน ROM อย่างถาวรมาแล้ว(เรียกว่า firmwa
หน่วยความจำแบบ RAM
ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าในการทำงาน (volatile memory)
ใช้เป็นที่พักข้อมูลในขณะประมวลผลของซีพียูเพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น
หากไฟดับหรือไม่มีกระแสไฟหล่อเลี้ยงข้อมูลที่เก็บไว้
ประเภทของสื่อเก็บบันทึกข้อมูล
แบ่งออกได้ตามรูปแบบของสื่อที่จัดเก็บ 4 ประเภทคือ
สื่อเก็บข้อมูลแบบจานแม่เหล็ก (magnetic disk devices)
สื่อเก็บข้อมูลแสง (optical storage devices)
สื่อเก็บข้อมูลแบบเทป (tape devices)
สื่อเก็บข้อมูลอื่นๆ (other storage devices) คือ ROM และ RAMสมด้วยทำงานแทนวเตอร์แบบพกพาเมื่อต้องการพลัง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น